【แปล】 บทความ Real Sound | ชางมิน (2020.03.08)
เหตุผลที่ชางมิน โทโฮชินกิเป็น “มังเน่" สุดแข็งแกร่งรุ่นบุกเบิก
เสียงร้องที่เกิดจากความพยายาม กับ ความเข้าถึงง่ายที่ไม่หายไปไหน
==============================================================
เสียงร้องที่เกิดจากความพยายาม กับ ความเข้าถึงง่ายที่ไม่หายไปไหน
บทความโดยคุณ Yui Satou | แปล JP→TH: berurin32
“มังเน่" สุดแข็งแกร่ง ――。
(T/N คำว่า “แข็งแกร่งที่สุด" นี้ออกเสียงเป็นภาษาเกาหลีว่า ‛เชวกัง' / เป็นคำที่อยู่ในสเตจเนม ‛เชวกังชางมิน' ด้วยค่ะ)
คำว่า “มังเน่ (막내)" ในภาษาเกาหลีมีความหมายว่า “น้องเล็ก" เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มศิลปิน K-POP จะใช้คำนี้เพื่อแสดงถึงเมมเบอร์ที่อายุน้อยที่สุด โดยแต่ละวงก็จะมีตำแหน่งมังเน่ที่เป็นที่รัก และเมื่อถามว่า ในบรรดามังเน่มากมายที่ได้รับความรัก ใครกันที่เป็น “มังเน่" รุ่นบุกเบิก ก็คงจะมีคนไม่น้อยเลยทีเดียวตอบว่า “ชางมิน ทงบังชินกิ/โทโฮชินกิ" นอกจากนั้นแล้ว เขายังเป็น “มังเน่สุดแข็งแกร่ง" อีกด้วย เพราะเหตุใดผู้คนจึงเรียกชางมินว่า เป็น “มังเน่" สุดแข็งแกร่งรุ่นบุกเบิกกันนะ
ซินเดอเรลล่าบอย ผู้ลงมือทำโดยไม่ปริปาก
ชางมินเริ่มเข้าวงการบันเทิงโดยการชักชวนของแมวมอง ซึ่งได้เข้ามาทักระหว่างที่เขากำลังเล่นแบดมินตันที่สนามตอน ม.ต้น ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนเข้มงวด ชางมินจึงได้รับการเลี้ยงดูในเป็นนักเรียนระดับหัวกะทิ มีกิริยามารยาทเรียบร้อย แม้ในตอนนั้นเขาจะไม่ได้สนใจเรื่องวงการบันเทิงเลย แต่คุณแม่ผู้ร่าเริงก็ได้จูงมือพาเขาไปฝากตัวกับต้นสังกัดศิบปินในที่สุด เขาไม่มีประสบการณ์ทั้งด้านการร้องและเต้น ตอนออดิชั่นรอบเต้นจึงทำเพียงตบมือเข้าจังหวะเท่านั้น แต่สุดท้ายเขาก็ได้รับโอกาสยิ่งใหญ่นั้นจากรูปร่างหน้าตางดงามที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีสายตารอบข้างอิจฉา เหมือนกับยุนโฮที่ตัดสินใจแน่วแน่ในการออกจากบ้านเพื่อมาเป็นเด็กฝึก และพยายามแบบเลือกตาแทบกระเด็นมาโดยตลอด โดยได้ยินว่า เขาเคยพูดอย่างเข้มงวดว่า “ถ้าจะทำแบบเหยาะแหยะก็ออกไปได้เลย" ด้วย
สิ่งที่ทำลายสถานการณ์น่าทุกข์ใจนี้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากความพยายามของชางมินเอง โดยเรื่องหนึ่งที่โด่งดังคือ หลังได้รับเลือกเข้าทีมทงบังชินกิ เขาก็ได้เรียนร้องเพลงโดยไม่หยุดพักเลย เสียงสูงที่ร้องได้อย่างสบายๆ, เสียงสั่นออกจากลูกคอที่ทำให้หวนนึกถึกอะไรบางอย่าง เด็กหนุ่มผู้เคยกล่าวว่า อยากร้องเพลงโดยที่ไม่ใช้แค่เทคนิค หากแต่อยากใส่ความรู้สึกลงไปให้เพลงซึ้งกินใจคนนั้นได้เติบโตขึ้นเป็นโวคอลลิสต์ (Vocalist) ที่ควบคุมเสียงร้องได้อย่างอิสระ
ในคอนเสิร์ตเขาเคยร้องโคฟเวอร์เพลงของศิลปินที่รักอย่าง “Rusty Nail" “Forever Love" และเพลงที่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ก็ทำให้เราค้นพบอะไรใหม่ๆ ว่า “ร้องเสียงแบบนี้ได้ด้วยหรอ?" ตอนนี้ซินเดอเรลล่าบอยผู้เคยไม่มีอะไรเลยได้ก้าวข้ามเทคนิคที่ได้รับจากการเรียน ดูเหมือนว่า เขากำลังสนุกกับการร้องเพลงออกมาจากใจล่ะ
แม้ในปัจจุบัน ไลฟ์สไตล์ที่เข้มงวดของเขายังคงไม่เป็นไป โดยรายการวาไรตี้ยอดนิยมของเกาหลีซึ่งออกอากาศในปี 2018 อย่าง “I Live Alone" (MBC) ได้แพร่ภาพขณะเขากำลังมุ่งมั่นกับการเรียนทำอาหาร, เล่นกีต้าร์, เล่นกล้าม, เรียนภาษาญี่ปุ่น นี่จึงอาจกล่าวได้ว่า ท่าทางเข้มงวดของยุนโฮที่ปรากฏให้เห็นครั้งแรกเจอมีส่วนช่วยเสริมสร้างความงดงามและความขยันที่ชางมินมีอย่างครบครันให้กลายเป็นพรสวรรค์อันโดดเด่น หรือในอีกด้านหนึ่ง ความกดดันจากท่าทางสบายๆ ของชางมินก็อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ยุนโฮพยายามมากยิ่งขึ้นอีกก็เป็นได้ การสร้างแรงกระตุ้นที่ดีให้คนรอบข้าง “แพ้ไม่ได้" จึงถือเป็นความสามารถ “มังเน่" ที่เขามีอย่างเต็มเปี่ยม
ดื้อรั้น และน่ารักโดยไม่รู้ตัว
เขาหน้าตาดีมาตั้งแต่เกิด เสียงร้องที่เพียรพยายามจนได้มาก็ไม่เป็นสองรองใคร อีกครั้งเขายังใฝ่ฝันเรียนรู้ โดยบางครั้ง(ชางมิน)ได้เผยนิสัยรักการอ่านให้เห็นผ่านทาง Instagram นั่นทำให้นอกจากเรื่องเต้นแล้ว การหาความรู้ (Input) อย่างต่อเนื่องก็ทำให้เร็วๆ นี้ชางมินดูมีทักษะในการแสดงความคิดเห็น และคำพูดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หมายความว่า เขาได้สูญเสียความเข้าถึงง่ายไป นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้(ชางมิน)กลายเป็น “มังเน่ผู้แข็งแกร่ง"
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนมีคนมาชมว่า “น่ารัก" ชางมินจะตอบกลับอย่างปากร้าย ชวนให้อมยิ้มได้มากทีเดียว สมัยทำกิจกรรม 5 คน เขาได้พูดถึงเรื่องที่แจจุงจูบ เพราะเอ็นดูราวกับเป็นเด็กน้อยไว้ว่า “ความรู้สึกแบบนั้นน่ะ อย่าแสดงออกมาเป็นการกระทำเลยครับ" หรือแม้กระทั่งตอนนี้ เมื่อแฟนๆ เห็นชางมินพูดหรือทำอะไรน่ารักๆ แล้วพากันตื่นเต้น ชางมินก็จะระเบิดคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ว่า “หยุดเลยครับ มีอะไร ‛สุดยอด’ หรอ ช่วยนั่งลงด้วยครับ!"
นอกจากเรื่องวิชวลแล้ว ความน่ารักโดยไม่รู้ตัวของเขาทำให้เมมเบอร์และแฟนๆ หลงใหลไม่หยุดหย่อน ซึ่งหากจะถามว่าไม่รู้ตัวขนาดไหนละก็ มันก็ขนาดที่ว่า เขาถึงกับทำตาโตตกใจในท่าทางดีใจของแฟนๆ ตอนคล้ายกับว่า มีฝุ่นปลิวผ่านตาระหว่างช่วง MC แล้วเจ้าตัวส่งเสียง “โฮ่ย" พลางใช้มือปัดอย่างรวดเร็วเหมือนแมว อย่างไรก็ตามตัวชางมินเองกลับพยายามใช้ความเท่กลบความน่ารักเหล่านั้นแทน ในอีกด้านหนึ่ง ความดื้อรั้นนี้จึงเป็นอีกสิ่งที่ตอกย้ำถึงความเป็นมังเน่ได้เป็นอย่างดี
เคารพต่อยุนโฮอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
แม้ว่าท่าทางปากร้ายที่ฟังแล้วรู้สึกดีจะได้รับความสนใจ แต่ในอีกด้านหนึ่ง การเลือกใช้คำพูดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็เป็นเสน่ห์สำคัญของชางมิน หลังจากที่เริ่มต้นวงอีกครั้งกับยุนโฮ 2 คน, ทำกิจกรรมอีกครั้งหลังปลดประจำการทหาร...... เส้นทางราว 15 ปีของพวกเขาได้พบกับบททดสอบหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะต้องสั่นไหวจากสภาพแวดล้อมแค่ไหน ความเคารพที่ชางมินมีต่อยุนโฮก็ไม่โอนเอนตามไปด้วยเลย
ในจดหมายที่อ่านต่อหน้าแฟนๆ ชางมินได้แฝงอารมณ์ขันเอาไว้ว่า “ถึง วิชวล แดนซิ่ง แมชชั่น (Visual Dancing Machine) ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ยุนโฮฮยอง" และกล่าวต่อไปว่า “ฮยองยอดเยี่ยมจริงๆ ฮยองเท่ แพชชั่นของฮยองน่ากลัวจนไม่มีความร้อนแรงไหนสู้ได้เลย เป็นฮยองที่ผมไม่ชอบไม่ได้เลยล่ะ" (อ้างอิงจาก: ช่วงเปิดจดหมายของยุนโฮกับชางมินในงานแฟนมิตติ้งทงบังชินกิ)
ในจดหมายที่อ่านต่อหน้าแฟนๆ ชางมินได้แฝงอารมณ์ขันเอาไว้ว่า “ถึง วิชวล แดนซิ่ง แมชชั่น (Visual Dancing Machine) ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ยุนโฮฮยอง" และกล่าวต่อไปว่า “ฮยองยอดเยี่ยมจริงๆ ฮยองเท่ แพชชั่นของฮยองน่ากลัวจนไม่มีความร้อนแรงไหนสู้ได้เลย เป็นฮยองที่ผมไม่ชอบไม่ได้เลยล่ะ" (อ้างอิงจาก: ช่วงเปิดจดหมายของยุนโฮกับชางมินในงานแฟนมิตติ้งทงบังชินกิ)
เวลาที่ยุนโฮอ่อนแอ ชางมินก็เคยให้กำลังใจว่า “โชว์ให้คนมากมายซึ่งกำลังมองดูฮยองเลยสิว่า ทำไมฮยองถึงได้ยอดเยี่ยม ผมคือยูโนว์ยุนโฮไงล่ะ มองมาที่ผมสิ! (ฮยอง)ไม่จำเป็นต้องลดความนับถือในตัวเองลงหรอกครับ เพราะยังไงแล้ว(ฮยอง)ก็คือยููโนว์ยุนโฮยังไงล่ะ" นอกจากนี้ เขายังพูดถึงการมีอยู่ของยุนโฮแบบไม่เหมือนใครอีกด้วยว่า “เป็นคนที่ทำให้รู้สึกถึงชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของผมครับ" (อ้างอิงจาก: บทสัมภาษณ์ ‛การเริ่มต้นใหม่บนปลายทางถนนสายยาว’ ที๋โทโฮชินกิกล่าวไว้ใน ‘VOGUE JAPAN’)
คำพูดนี้ช่างไร้การสั่นไหวจริงๆ อีกทั้งสายตาที่เขามองยังไร้ความลังเลอีกด้วย ความเข้มแข็งของชางมินดึงให้ยุนโฮลุกขึ้นยืนหลายต่อหลายครั้ง สำหรับยุนโฮแล้ว ชางมินจึงเป็นเหมือน “เข็มทิศ" ที่ชี้นำทางที่ถูกต้อง เขาตั้งใจจดจ่อกับการพัฒนาตัวเอง เชื่อมั่นในความสามารถของเมมเบอร์ที่เคารพรักเหมือนพี่ชายอย่างไร้ข้อกังขา และยังมอบความรักให้แฟนๆ ได้อย่างน่ารักและดื้อรั้นนิดๆ ด้วย ถ้าคนแบบนั้นมาอยู่ใกล้ๆ แล้ว จะรู้สึกอุ่นใจ มุ่งมั่น และภาคภูมิใจขนาดไหนกันนะ คำตอบนั้นไม่ได้มีเพียงยุนโฮ(ที่รู้สึก)หรอก เพราะแฟนๆ ก็รู้สึกได้เช่นกัน
ผู้คนต่างกล่าวว่า “มังเน่" ผู้ซึ่งได้รับความรักจากคนรอบข้าง และตั้งใจจะตอบแทนบุญคุณที่มีถือเป็น Key Person (= คนที่เป็นกุญแจสำคัญ) ในการยกระดับมาตรฐานความสามารถวง นอกจากนี้ คำร่ำลือที่ว่า “มังเน่" ในวงที่มีเสน่ห์จะเสน่ห์ดึงดูดก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ พัฒนาการของชางมิน ผู้บุกเบิกการเป็นมังเน่สุดแข็งแกร่ง รวมทั้งกิจกรรมระดับตำนานของทงบังชินกิ/โทโฮชินกิที่ไม่หยุดนิ่งเป็นสิ่งที่เรากำลังตั้งตารอต่อจากนี้
Comments
Post a Comment