【แปล】 บทสัมภาษณ์นิตยสาร GOETHE 09/2019
【โทโฮชินกิ】 แอลกอฮอล์ และความสัมพันธ์ที่ดีที่ยุนโฮ, ชางมินพูดถึงเป็นแบบไหน?
โทโฮชินกิที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไม่ว่าจะเป็นทั้งในญี่ปุ่น
เกาหลี และเอเชีย เพราะเป็นสองคนที่แม้จะเดบิวต์ที่ญี่ปุ่นเข้าปีที่ 15 แล้ว แต่ก็ยังอยู่เป็นตัวท็อปมาตลอด เราเลยได้ถามถึงความคิดต่อการทำงาน
และลักษณะการดื่มหลังเสร็จงาน
“การค้นพบเรื่องใหม่ๆ ระหว่างดื่มเหล้าสนุกดีนะ” (ยุนโฮ)
สมกับเป็นซุปเปอร์ดูโอ้ โทโฮชินกิจริงๆ เลยนะ การแสดงบนเวทีที่เข้ากันอย่างดีเยี่ยมเป็นอีกชื่อหนึ่งของพวกเขา
แต่แม้แต่ในการถ่ายแบบ พวกเขาก็สามารถโพสต์ท่าเข้ากันได้อย่างต่อเนื่อง
ถึงอย่างนั้นมันน่าสนใจที่ทั้งสองคนชอบแอลกอฮอล์ต่างกัน
พอชางมินกล่าวว่า “เบียร์อันนี้ได้กลิ่นมอลต์แรงมากๆเลยครับ
ปกติผมจะดื่มไวน์น่ะครับ แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ชอบดื่มเบียร์ด้วยเหมือนกัน”
ยุนโฮก็กล่าวต่อยิ้มๆ ว่า “ส่วนของผมน่าจะเป็นวิสกี้นะครับ
เพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเหล้าของผู้ใหญ่ดีครับ”
“แต่ผมน่ะ พอดื่มเหล้าปุ๊บ หน้าก็แดงขึ้นมาทันทีเลยล่ะครับ (หัวเราะ) ถึงจะดื่ม
ผมเลยดื่มแค่ปีละประมาณ 10
ครั้ง เพราะต้องไม่ดื่มจนส่งผลกระทบถึงร่างกายวันต่อไป
น่ะครับ (=ต้องระวังไม่ให้แฮงค์)” (ยุนโฮ)
ได้ยินมาว่าตอนที่ทั้งสองคนดื่มน่ะจะดื่มจนสุดไปเลย
“หลังจบการคุยวางแผนทัวร์หรืองานสำคัญเสร็จ ก็จะต้องดื่มเหล้า
แลกแก้วกับทีมงานน่ะครับ ถ้ามี 30
คนก็ต้องดื่ม 30
ครั้ง (หัวเราะ) มันก็ลำบากนะครับ
แต่ผมคิดว่ามันเป็นมารยาทน่ะครับ” (ยุนโฮ)
“พอได้ดื่มกับคนที่สนิทแล้ว ก็ดื่มใหญ่เลยครับ
มีตอนที่เคยรู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็เปิดเบียร์ไปมากกว่า
10 กระป๋องด้วย
(หัวเราะ)” (ชางมิน)
การที่ทั้งสองได้ดื่มแลกแก้วกับคนที่ช่วยเหลือพวกเขาจึงไม่ใช่เรื่องลำบากแต่อย่างใด
“ปกติแล้ว ตอนที่แต่ละคนมีงานของตัวเอง โดยเฉพาะก่อนการแสดงจะเริ่ม
ก็จะรู้สึกประหม่านะครับ
แต่การที่ได้ดื่มเหล้ากันตอนประชุมวางแผนทำให้บรรยากาศราบรื่นเป็นธรรมชาติ
และทำให้แต่ละฝ่ายสามารถเปิดใจคุยเรื่องต่างๆ กันได้ครับ พอเป็นอย่างนั้นแล้ว
ผมเลยสนุกกับการค้นพบเรื่องใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนในบทสนทนาสั้นๆ
นั้น” (ยุนโฮ)
นอกจากนั้น ชางมินยังกล่าวว่า
การดื่มแลกแก้วกับครอบครัวยังเป็นเรื่องพิเศษอีกด้วย “ผมน่ะมีน้องสาวสองคนครับ
เมื่อก่อนตอนดื่มด้วยกัน 3
คนครั้งแรก
ก็ได้ค้นพบด้านที่ทำให้ประหลาดใจของแต่ละคน
เป็นการดื่มที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวลึกซึ้งขึ้นเลยละครับ
เหล้าน่ะเหมือนมีพลังประหลาดที่ช่วยกระชับ “พื้นที่หัวใจ”
ระหว่างคนสองคนเลยนะครับ”
นอกจากจะจุดประกายในการทำงานแล้ว ยังช่วยเพิ่มระดับความสัมพันธ์ระหว่างคนอีกด้วย
สำหรับโทโฮชินกิแล้ว แอลกอฮอล์อาจจะเป็นเหมือน “ท่วงทำนองเพลงฟังแล้วสบายใจ”
ที่ช่วยเชื่อมต่อการทำงานกับตัวคนเข้าด้วยกัน
พวกเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ของการเดบิวต์ที่ญี่ปุ่น ปีที่ผ่านมา พวกเขาเปล่งประกายอย่างสง่างามในอันดับ 1 ของการแสดงที่มีผู้คนรวมทั้งปีมากที่สุด (ประมาณ 1.2 ล้านคน) แม้จะมีช่วงที่ห่างหายไปเข้ารับราชการทหาร(+ตำรวจ)ราว 2 ปี แต่พวกเขาก็วิ่งทะยานสู่ตำแหน่งท็อปมาโดยตลอด
สิ่งที่ขับเคลื่อนพวกเขาคืออะไรกันนะ
“ความทะเยอทะยานเพื่อให้ได้มาซึ่งอุดมคติก็สามารถกลายเป็นความหวังได้”
(ชางมิน)
“พอลองย้อนมองดูแล้ว ผมมีช่วงที่คิดว่า อยาก
“ได้รับการยอมรับ” ด้วยเพลง และการเต้นที่ผมรัก และก็คิดว่า
การประเมินจากคนอื่นเป็นสิ่งแสดงถึงความการมีอยู่ของตัวเองครับ
แต่ไม่ว่าจะชอบมันขนาดไหน ก็มีบางทีที่ผมรู้สึกเหนื่อย ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ดึงให้ผมลุกขึ้นมา
“พยายามต่ออีกครั้ง” ก็คือ เสียงเชียร์จากแฟนๆ ครับ
เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้อยากพยายามเพื่อตัวเอง แต่อยากทำเพื่อใครซักคน
นั่นเป็นกำลังใจที่คอยขับเคลื่อนเลย” (ชางมิน)
ความคลั่งไคล้(=พลังเชียร์)สีแดงที่เติมเต็มที่นั่งผู้ชม การที่มีแฟนคลับร้องเพลงไป
หัวเราะไปด้วยกัน บางทีก็มีแฟนๆ ที่ตื้นตันจนร้องไห้ยินดีออกมา
ทุกครั้งที่มองสีหน้าแบบนั้น ยุนโฮเองก็ตื้นตันใจ และมีพลังขึ้นมา
“ตั้งแต่ตอนที่เริ่มทำงานนี้ ผมคิดว่าอยากเป็นศิลปินที่ขับเคลื่อนหัวใจคนได้ครับ
ตอนนี้ความคิดนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนไป ผมที่ปัจจุบันเข้าสู่ช่วงอายุ 30 แล้วคิดว่า “พวกผมน่ะมีชีวิตอยู่ในชีวิตของแฟนคลับแต่ละคนที่คอยให้ความรักโทโฮชินกิ”
พอคิดแบบนั้นก็เลยรู้สึกถึงความรู้ผิดชอบในความหมายที่เป็นบวก
แล้วก็รู้สึกถึงคุณค่าที่ได้ทำด้วยครับ”
มันเป็นความสุขที่มาจาก “งาน”
ที่ไม่ใช่แค่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังทำให้ชีวิตของผู้อื่นสมบูรณ์ขึ้นอีกด้วย
ถึงอย่างนั้นถ้าก้าวผิดสักก้าวนึง มันก็อาจกลายเป็นตัวที่ดึงให้หยุด แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ
“ความเครียด และความกดดันน่ะใช่ว่าจะเป็นสิ่งไม่ดีเสมอไปนะครับ
มันยังเป็น “ภาระดีๆ” ที่ช่วยทำให้เราโตขึ้นด้วย ผมมักจะคิดอย่างเด็ดขาด
พอลืมตาตื่นมาตอนเช้าก็บอกกับตัวเองว่า “มาทำวันนี้ให้เป็น 1 วันที่พิเศษกัน” ผมไม่ได้สะกดจิตตัวเองนะครับ แค่รู้สึกว่าพอทำทุกวันแล้ว
เหมือนมันมีผลที่ดีออกมาจริงๆ เลย (หัวเราะ)” (ยุนโฮ)
“พอเทียบกับยุนโฮแล้ว ผมเป็นคนคิดลบครับ
ไม่ว่าจะเป็นการร้อง หรือการเต้น
ไม่ว่าเมื่อไรผมก็ไปไม่ถึงความเพอร์เฟ็คอย่างที่ใจหวังซักที (หัวเราะแห้งๆ)
แต่เพราะมีภาพอุดมคติที่อยากทำให้ได้ ผมเลยไม่สามารถทำแบบครึ่งๆ กลางๆ ได้ ก็เลยค่อยๆ
พัฒนาขี้นทีละนิด เพราะว่ามีแฟนคลับที่ยังรออยู่ ผมเลยมีแรงพยายามครับ” (ชางมิน)
พวกเขาอยากจะท้าทายเส้นทางศิลปิน ไปพร้อมๆ
กับเดินเคียงข้างแฟนๆ ไปเรื่อยๆ
เมื่อยุนโฮกล่าวว่า “เมื่อไม่นานมานี้
ผมคิดนะครับว่า การที่สามารถสานต่อได้เรื่อยๆ นานๆ นี่ดูเท่ที่สุดเลย
เท่ยิ่งกว่าความสำเร็จหรือชื่อเสียงอีกไม่ใช่หรอ” ชางมินก็เสริมขึ้นว่า
“แค่มีผู้คนได้รับความสุข และพลังจากเพลงของพวกผม
นั่นก็ทำให้ผมอยากร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ”
ไม่ว่าเมื่อไรก็จะจริงใจสมกับเป็นโทโฮชินกิที่ไม่หลงใหลไปกับความความนิยม
คำสาบานของทั้งคู่ที่ฟังแล้วอยากจะยกแก้วร้องไชโยให้อยู่ตรงนั้นไงล่ะ
==============================================================
เครดิต: นิตยสาร GOETHE ฉบับเดือนกันยายน 2019
✍ JP→TH: berurin32
Comments
Post a Comment